วิธีสร้างเว็บไซต์ให้พร้อมใช้งานได้ทันที แบบฉบับมือใหม่หัดทำได้

ในยุคดิจิทัลที่ทุกธุรกิจต้องมีตัวตนบนโลกออนไลน์ การมีเว็บไซต์เปรียบเสมือนการสร้างหน้าร้านที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด หากคุณเป็นมือใหม่และกำลังมองหาวิธีสร้างเว็บไซต์ที่ไม่ซับซ้อนและพร้อมใช้งานได้ทันที บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์แบบง่าย ๆ ที่ใครก็ทำตามได้
การสร้างเว็บไซต์สำคัญต่อธุรกิจอย่างไร
การสร้างเว็บไซต์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เพราะเว็บไซต์คือช่องทางหลักในการนำเสนอข้อมูลสินค้าและบริการ เป็นศูนย์กลางในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมถึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังช่วยให้ธุรกิจของคุณดูมีความเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือในสายตาของผู้บริโภค
ข้อดีของธุรกิจที่มีเว็บไซต์
การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองมอบข้อได้เปรียบหลายอย่างให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาแบบดั้งเดิม และยังเป็นช่องทางในการเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาสินค้าหรือบริการในอนาคตได้อีกด้วย นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังเป็นเหมือนแคตตาล็อกสินค้าออนไลน์ที่ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าชมและสั่งซื้อได้สะดวกยิ่งขึ้น
เริ่มต้นวางแผนการสร้างเว็บไซต์

ก่อนจะเริ่มลงมือสร้างเว็บไซต์จริง ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีทิศทางที่ชัดเจนและตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง การวางแผนที่ดีประกอบด้วย 4 ขั้นตอนสำคัญดังนี้
1. กำหนดเป้าหมายเว็บไซต์
การกำหนดเป้าหมายเว็บไซต์ให้ชัดเจนตั้งแต่แรกจะช่วยให้การสร้างเว็บไซต์มีทิศทางที่ถูกต้อง เช่น หากเป้าหมายของคุณคือการเพิ่มยอดขาย ก็ต้องออกแบบเว็บไซต์ให้มีหน้าร้านค้าออนไลน์ที่ใช้งานง่าย หรือถ้าเป้าหมายคือการสร้างแบรนด์ ก็ต้องเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจและสร้างแรงบันดาลใจ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะส่งผลต่อการตัดสินใจในทุก ๆ ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์
2. ระบุกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้
หลังจากกำหนดเป้าหมายแล้ว วิธีทำเว็บไซต์ขั้นต่อไปคือการระบุว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร เช่น เพศ อายุ ความสนใจ หรือพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งจะช่วยให้คุณสามารถออกแบบเว็บไซต์ได้ตรงใจผู้ใช้งานมากขึ้น ทั้งในเรื่องของดีไซน์ เนื้อหา และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ
3. ออกแบบแผนผังเว็บไซต์
แผนผังเว็บไซต์ (Sitemap) คือโครงสร้างที่แสดงหน้าเว็บไซต์ทั้งหมดและลำดับความสำคัญของแต่ละหน้า การออกแบบ Sitemap ที่ดีจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำทางในเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายและสะดวก ไม่หลงทาง และยังช่วยให้ Search Engine เข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เว็บไซต์มีโอกาสติด
4. จัดวางโครงสร้างหน้าเว็บไซต์
การจัดวางโครงสร้างหน้าเว็บไซต์ (Page Layout) เป็นการกำหนดตำแหน่งของส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น ส่วนหัว (Header) ส่วนเนื้อหา (Content) และส่วนท้าย (Footer) การวาง Layout ที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบ ทำให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ
เลือกวิธีการสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะสม

เมื่อวางแผนเรียบร้อยแล้ว วิธีทำเว็บไซต์ยังมีให้เลือกหลายแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับความรู้และงบประมาณของคุณ
ใช้ Instant Website Builder
Instant Website Builder เป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ใช้งานง่ายที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่ถนัดการเขียนโค้ด เพราะมีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย และมีฟังก์ชันแบบ Drag and Drop ที่ช่วยให้คุณสามารถลากวางองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ทำให้การปรับแต่งเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายและสนุก
ทำเว็บไซต์ด้วย WordPress
WordPress คือระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก เป็นวิธีสร้างเว็บไซต์ที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้มากกว่า Instant Website Builder เพราะมีปลั๊กอินและธีมให้เลือกใช้นับหมื่นรายการ ทำให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ
จ้าง Outsource พัฒนาเว็บไซต์
การจ้าง Outsource คือการจ้างบริษัทหรือฟรีแลนซ์ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเว็บไซต์โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนสูงและต้องการฟังก์ชันการทำงานที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งจะช่วยให้คุณได้เว็บไซต์ที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง
วิธีสร้างเว็บไซต์แบบฉบับมือใหม่
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเอง เราขอแนะนำวิธีสร้างเว็บไซต์แบบง่าย ๆ ด้วยแพลตฟอร์มสำเร็จรูป ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เลือกแพลตฟอร์ม Instant Web และสร้างบัญชี
ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ เริ่มต้นด้วยการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม เช่น Wix, Squarespace หรือ Webflow จากนั้นให้สร้างบัญชีผู้ใช้งาน โดยส่วนใหญ่แพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีแผนการใช้งานฟรีหรือให้ทดลองใช้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง
2. ตั้งชื่อโดเมน
ตั้งชื่อโดเมนที่สั้น กระชับ และสื่อถึงแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ ควรพยายามเลือกใช้นามสกุลโดเมนที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น .com สำหรับธุรกิจทั่วไป หรือ .co.th สำหรับธุรกิจในประเทศไทย การตั้งชื่อโดเมนที่ดีเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการทำ SEO
3. เลือกเทมเพลตสำเร็จรูป
เลือกเทมเพลตหรือรูปแบบเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ถูกใจและเข้ากับประเภทธุรกิจของคุณ แพลตฟอร์มส่วนใหญ่จะมีเทมเพลตให้เลือกมากมายตามหมวดหมู่ ซึ่งคุณสามารถลองใช้งานและปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
4. ปรับแต่งเว็บไซต์
ปรับแต่งเทมเพลตที่เลือกมาให้เข้ากับสไตล์ของแบรนด์ เช่น เปลี่ยนสี เปลี่ยนฟอนต์ หรือเพิ่มโลโก้ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้มักเป็นแบบ Drag and Drop ที่ใช้งานง่าย ทำให้คุณสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเขียนโค้ด
5. เพิ่มเนื้อหา
เมื่อได้โครงสร้างและดีไซน์ที่ต้องการแล้ว ให้เริ่มเพิ่มเนื้อหาต่าง ๆ ลงไปในเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอ ที่สำคัญคือเนื้อหาต้องมีคุณภาพและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน
6. ตั้งค่า SEO
การตั้งค่า SEO เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับในการค้นหา การตั้งค่าเบื้องต้นทำได้ง่าย ๆ โดยการกรอกข้อมูล เช่น Title Tag, Meta Description และ Keyword ซึ่งแพลตฟอร์ม Instant Web ส่วนใหญ่จะมีเครื่องมือสำหรับ SEO มาให้เรียบร้อย
7. เผยแพร่เว็บไซต์
หลังจากตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเผยแพร่เว็บไซต์ของคุณสู่สาธารณะ เพียงแค่กดปุ่ม “Publish” เว็บไซต์ของคุณก็จะออนไลน์และพร้อมให้ผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมได้ทันที
สรุปบทความ
ในปัจจุบัน การสร้างเว็บไซต์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนามาเพื่อช่วยให้มือใหม่สามารถสร้างเว็บไซต์ของตัวเองได้ง่าย ๆ การมีเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจ
หากคุณกำลังมองหาวิธีสร้างเว็บไซต์ หรือต้องการที่ปรึกษาด้าน E-Commerce และการตลาดออนไลน์ Siam E-Commerce มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและพัฒนาเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง